4 เรื่องจริง สุดสยอง! ของคนตายโหง!!(ขวัญอ่อนห้ามคลิ๊ก)!! |
||
โพสต์เมื่อวันที่ : IP : เปิดอ่าน : 97911 / 1 ความเห็น คะแนนของ BLOG นี้ ![]() |
![]() |
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต |
ตายโหง ที่ 1 “ผีคุกกองปราบสุดเฮี้ยน” จากคดีสุดสยองขวัญในคุกของกองปราบฯ ในคดีคนผูกคอตาย ในคุก ทำให้มีเรื่องราวเล่าขานถึงความเฮี้ยนของผีคุกกองปราบฯ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้กำกับของ “ตูน มานุสส วรสิงห์” นำมาตีแผ่ในชื่อตอน “นักโทษแขวนคอตาย” นำแสดงโดย “หนุ่ม อรรถพร, เต๊ะ ศตวรรษ” ที่ รับบทเป็น “ก้อง” (เต๊ะ ศตวรรษ) ชายหนุ่มรักสนุก ที่ความผิดพลาดเพียงชั่ววูบ ได้พาเขาไปเผชิญกับฝันร้ายที่จะไม่มีวันได้ตื่นขึ้นมา กับชีวิตในคุกและวิญาณที่คิดจะพาเขาไปอยู่
(เสื้อแดง)ผู้ต้องหาที่ผูกคอตายในห้องขัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้จุดเกิดเหตุที่เฮี้ยนสุดๆ
สยองห้องขังเฮี้ยน!?! ผีโผล่คุกกองปราบฯ แล้วก็เกิดเรื่องชวนขนหัวลุกขึ้นในห้องขังกองปราบปรามอีกจนได้ ห้องขังที่ร่ำลือกันว่ามีความเร้นลับ ผู้ต้องหาหลายคนที่เคยเข้ามานอนในห้องขังแห่งนี้มักจะพบเจอกับเหตุการณ์ ประหลาด บางคนทึกทัก ไปว่าเห็นภูตผีปีศาจตามมาชวนไปอยู่ด้วย บางคนอ้างว่าถูกผีหลอก เป็นผีผู้ชายมาดึงแข้งดึงขาจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน
เป็นเรื่องเล่าที่ฟังแล้วชวนสยอง!!ว่ากันว่าห้องขังแห่ง นี้หลังจากที่เกิดกรณีมีผู้ต้องหารายหนึ่งผูกคอตายภายในห้อง ก็มักจะมีแต่เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับบรรดาผู้ต้องขังรายใหม่ๆ ที่มาอยู่เป็นประจำ รายล่าสุดเกิดเรื่องขึ้นกับนายสมบูรณ์ ทองคำ ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ที่ถูกจับเข้าห้องขัง เจ้าตัวอ้างว่าถูกผีหลอกจนต้องร้องเรียกตำรวจดังลั่น
เป็นอีกรายที่อ้างว่าถูกผีหลอกในห้องขัง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ในมุมของตำรวจกลับมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การคิดไปเองของผู้ ต้องขัง เนื่องจากเกิดความเครียด เลยทำให้เกิดภาพหลอนเห็นผีสาง หรือไม่ก็เป็นข้ออ้างเพื่อให้พนักงานสอบสวนรีบนำตัวส่งฟ้อง จะได้ไม่ต้องนอนคุกให้ทนทุกข์ทรมาน
ในสภาวะความกดดันจึงอาจทำให้เกิดภาพหลอนขึ้นได้ย้อนไปดู เหตุการณ์ที่เกิดกับนายสมบูรณ์ เกิดขึ้นตอนตี 3 วันที่ 26 ส.ค. เมื่อจู่ๆ นายสมบูรณ์ ผู้ต้องหาในคดีกรรโชกทรัพย์ และให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด วัย 39 ปี ซึ่งถูกจับก่อนหน้านี้ 1 วัน และถูกคุมขังคนเดียวในห้องขัง ได้ร้องตะโกนเอะอะโวยวายเสียงดังลั่น
ที่มาของข่าว/ http://click2member.com/viewthread.php
…………………………………………………..
ตายโหง ที่ 2 “ศพหมกแท๊งค์น้ำ” คดี
นี้เป็นอีกคดีหนึ่งที่กล่าวขานและวิพากษ์วิจารณ์กันมาก
ถึงการฆาตกรรมหญิงสาววัย 26 ปี ของหอพักแห่งหนึ่ง แล้วนำศพไปหมกในแท๊งค์น้ำ
ทำให้คนที่อาศัย อยู่ในหอดังกล่าวได้ใช้น้ำ
อาบ,ล้างหน้า,แปรงฟัน,และบางห้องก็นำน้ำมาหุงข้าว โดยไม่รู้ว่าน้ำดังกล่าว
เป็นน้ำแช่ศพ และเป็นหนึ่งเรื่องราวของภาพยนตร์ “ตายโหง” ในตอ “ผีแทงค์น้ำ”
ผลงานการกำกับของ
“ กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” นำแสดงโดย กระแต ศุภักษร, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร , กัส วีรดิษฐ์ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกฆ่าตายแล้วนำศพไปหมกแทงค์น้ำ ทำให้คนในหอพัก เกิดความหวาดกลัวกับวิญาณผีสาวที่เฮี้ยนสุดๆ และน้ำที่ใช้บริโภคอยู่ทุกวันกลับเป็นน้ำแช่ศพ สุดสะอิดสะเอียนกันทั้งหอ
“ กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” นำแสดงโดย กระแต ศุภักษร, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร , กัส วีรดิษฐ์ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ถูกฆ่าตายแล้วนำศพไปหมกแทงค์น้ำ ทำให้คนในหอพัก เกิดความหวาดกลัวกับวิญาณผีสาวที่เฮี้ยนสุดๆ และน้ำที่ใช้บริโภคอยู่ทุกวันกลับเป็นน้ำแช่ศพ สุดสะอิดสะเอียนกันทั้งหอ
พระทำพิธีณ.จุดเกิดเหตุ
คดีสยองฆ่าหมกศพในแท๊งค์น้ำ
จากคดีสยองขวัญปนคลื่นเหียนอาเจียน กรณีพบศพสาววัยรุ่นสวมเสื้อสายเดี่ยว กางเกงลายพรางทหารขาสั้น ถูกฆาตกรรมอำพรางใช้ของแข็งทุบหัวและรัดคอ นำศพห่อหุ้มด้วยถุงดำหมกในถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร บนดาดฟ้าของหอพักพัชรินทร์
ตั้งอยู่เลขที่ 82/286 ซอยไทยธานี 31/2 หมู่ 9
ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
และจากศพที่เน่าเหม็นทำให้คนในหอพักพากันใช้น้ำที่มีกลิ่นเน่าเหม็นผิดปกติ
กระทั่งขึ้นไปตรวจสอบในถังน้ำถึงกับผงะเจอศพอืดกลิ่นโชยตลบ
เบื้องต้นสันนิษฐานถูกลวงมาฆ่าทิ้งนั้น ต่อมาตั้งแต่เช้าวันที่ 19 ก.ค.
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ ในหอพักพัชรินทร์และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
พร้อมสาปแช่งฆาตกรที่ลงมือฆ่าอย่างอำมหิต
รวมทั้งเรื่องน้ำเน่าจากศพที่ขึ้นอืดในถังน้ำที่ชาวหอต่างนำมาใช้อาบ
ล้างหน้า แปรงฟันบางคนนำมาหุงข้าวกินโดยไม่ทราบมาก่อนว่ากลิ่นเหม็น
ของน้ำเป็นน้ำแช่ศพเน่า พอมารู้ภายหลังหลายคนถึงกับอาเจียนไปตามๆกัน
ขณะเดียวกันคนที่พักในหอพากันอพยพย้ายไปอยู่ที่ใหม่หลายสิบห้อง
เนื่องจากเข็ดขยาดกับน้ำในหอและหวาดผวาวิญญาณผีเฮี้ยนของสาวเหยื่อฆาตกรรมจากคดีสยองขวัญปนคลื่นเหียนอาเจียน กรณีพบศพสาววัยรุ่นสวมเสื้อสายเดี่ยว กางเกงลายพรางทหารขาสั้น ถูกฆาตกรรมอำพรางใช้ของแข็งทุบหัวและรัดคอ นำศพห่อหุ้มด้วยถุงดำหมกในถังน้ำขนาด 2,000 ลิตร บนดาดฟ้าของหอพักพัชรินทร์
สอบถาม น.ส. อัมพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ที่พักอาศัยอยู่ชั้นที่ 3 ของหอพัชรินทร์ กล่าวว่า
พักอยู่ในหอได้ 6-7 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์อะไร แต่พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ทำให้รับไม่ได้ อยู่ต่อไม่ไหวแล้ว เพราะที่ผ่านมาเมื่อ 2-3 วันก่อน พบศพตนก็ได้ใช้น้ำอาบ ล้างหน้า แปรงฟันทั้งที่มีกลิ่นเหม็นเน่าเลยรับไม่ได้ แม้ว่าหลังพบศพทางหอพักได้รื้อเปลี่ยนถังน้ำใหม่แล้วก็ตาม เพราะความรู้สึกยังขยะแขยง และที่สำคัญกลัววิญญาณเฮี้ยน ด้านนางสมพร สัตย์ซื่อ อายุ 49 ปี เจ้าของหอพักพัชรินทร์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนในหอขอย้ายออกจำนวนมาก หอพักมีทั้งหมด 30 กว่าห้อง ปกติมีคนอยู่เต็มแต่ตอนนี้ขอย้ายออกเกือบหมด ยังไม่รู้เลยว่าจะเหลือคนเช่าหออยู่กี่ห้อง ไปห้ามเขาก็ไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิ์ของเขา สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ต้องทำใจ พร้อมกันนี้ได้ให้คนงานรื้อถังน้ำอันเก่าทั้ง 2 ใบออก แล้วซื้อของใหม่มาแทนแล้ว รวมทั้งรื้อระบบท่อประปาทั้งหมดและที่สำคัญจะต้องมีการทำบุญหอเพื่ออุทิศ ส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเพื่อความเป็นสิริมงคล และเรียกขวัญผู้ที่ยังพักอยู่ต่อไป
ส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผกก.สภ.คลองหลวง ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน โดยมี พ.ต.ท.สมศักดิ์ ถนอมบุญ รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ท.ศราวุธคงคานนท์ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.อรุณ อัครธรรม สว.สส. ใช้เวลากว่า 2 ชม. จากนั้น พ.ต.อ.สุรศักดิ์เปิดเผยว่า ได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามข่าวหาเบาะแสของคนร้าย และตรวจสอบว่าหญิงสาวเหยื่อฆาตกรรมเป็นใครมาจากไหน เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามหาตัวคนร้าย และจากแนวทางการสอบสวน สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุต้องรู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดีและน่าเชื่อว่า ต้องเป็นคนในหอ อาจจะลวงมาเจรจาปัญหาบางอย่างแต่ตกลงกันไม่ได้เลยลงมือฆ่าแล้วนำศพมายัดถัง
ที่มา/http://atcloud.com/stories/
……………………………………………….
ตายโหง ที่ 3 “ผับไฟไหม้” เป็น
เรื่องราวสุดสะเทือนใจของคนไทยทั้งประเทศ
กับการฉลองส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในผับชื่อดัง
“ซานติก้า”ทำให้ฆ่าชีวิตคนแบบย่างสดๆไปกว่าร้อยชีวิต
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ผู้กำกับ “แนต ชาติชาย
เกษนัส”นำมาบอกเล่าในชื่อตอน “ไฟไหม้ผับ” ที่นำแสดงโดย “กอล์ฟ อัครา, กบ
พิมลรัตน์” ที่แสดงเป็นคู่รักที่ไปฉลองปีใหม่กันที่ผับแห้งหนึ่ง
และเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน
เมื่อปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง่กลับฆ่าชีวิตของเขาทั้งสองให้พรากจากกัน
ภาพข่าวเหตุการณ์ไฟไหม้ผับชื่อดังเมื่อต้นปีก่อน
ทุกอย่างเหลือเพียงเท่าถ่าน
ระทึกขวัญ!ย่างสด รับปีวัว “ซานติก้าผับ”
กรุงเทพฯ 1 ม.ค.- ไฟไหม้ซานติก้า ผับ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. นับเป็นเหตุสลดประเดิมศักราช ปี 2552 และคงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลาย ๆ คน ที่คิดจะเปิดสถานบันเทิง เพื่อสร้างความสุขให้อย่างแท้จริง สลด! รับปีวัว ผ่านปีใหม่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไฟไหม้โหมกระหน่ำ ซานติก้า ผับย่านเอกมัย ซอย 9 ผับหรูชื่อดัง กลางกรุง นักเที่ยวไทย เทศ หนีตายอลหม่านรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมเร่งสกัดไฟ แต่อุปสรรคสำคัญกลับเป็นทางเข้า-ออกผับ ที่ค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่ช่วยผู้ประสบเหตุอย่างยากลำบาก ขณะที่ภายในมีนักเที่ยวราตรีฉลองรับปีใหม่อย่างแออัดยัดเหยียดเฉียดๆ พันคนผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง แม้สามารถคุมเพลิงได้ แต่ภาพที่เห็น ยิ่งสลดใจ สภาพศพนอนเกลื่อนกว่าครึ่งร้อย ส่วนใหญ่สำลักควันและถูกเหยียบ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลต่าง ๆ
เบื้องต้น คาดสาเหตุ
เกิดจากนักท่องเที่ยวแอบจุดพลุฉลองรับปีใหม่ เปลวไฟพุ่งขึ้นติดโฟมด้านบน
และลุกไหม้อย่างรวดเร็วซานติก้า ผับเปิดตัวในปี 2547
ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างสีสัน ความสุข
และความบันเทิงที่แปลกใหม่ให้กับคนกรุงเทพฯ ซานติก้า เป็นภาษาสเปน แปลว่า
ธรรมชาติที่สวยงาม ดำเนินการโดยบริษัท White & Brothers (2003) จำกัด
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซานติก้า มีชื่อเสียงและมีกระแสตอบรับที่ดี
มีลูกค้าเฉลี่ยถึง 700 คนต่อวัน และเมื่อคืนที่ผ่านมา
เป็นคืนสุดท้ายที่ผับแห่งนี้ เปิดให้บริการ
ก่อนจะปิดตัวเพราะหมดสัญญาเช่าที่
แต่ก็กลับเป็นคืนสร้างเหตุสยองประเดิมศักราช 2552กรุงเทพฯ 1 ม.ค.- ไฟไหม้ซานติก้า ผับ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.20 น. นับเป็นเหตุสลดประเดิมศักราช ปี 2552 และคงเป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลาย ๆ คน ที่คิดจะเปิดสถานบันเทิง เพื่อสร้างความสุขให้อย่างแท้จริง สลด! รับปีวัว ผ่านปีใหม่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไฟไหม้โหมกระหน่ำ ซานติก้า ผับย่านเอกมัย ซอย 9 ผับหรูชื่อดัง กลางกรุง นักเที่ยวไทย เทศ หนีตายอลหม่านรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมเร่งสกัดไฟ แต่อุปสรรคสำคัญกลับเป็นทางเข้า-ออกผับ ที่ค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่ช่วยผู้ประสบเหตุอย่างยากลำบาก ขณะที่ภายในมีนักเที่ยวราตรีฉลองรับปีใหม่อย่างแออัดยัดเหยียดเฉียดๆ พันคนผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง แม้สามารถคุมเพลิงได้ แต่ภาพที่เห็น ยิ่งสลดใจ สภาพศพนอนเกลื่อนกว่าครึ่งร้อย ส่วนใหญ่สำลักควันและถูกเหยียบ ขณะที่ผู้บาดเจ็บอีกกว่า 200 คน ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลต่าง ๆ
ที่มา/http://blog.eduzones.com/entertain
…………………………………………………
ตายโหงที่ 4 “ผีม่านรูด” และ
ตายโหงสุดท้ายกับเรื่องราวความน่ากลัวของ “ผีสาว”
ที่ถูกฆ่าตายในโรงแรมม่านรูด กับผลงานการกำกับของ “พจ อานนท์” ในตอน
“ขึ้นครู”นำแสดงโดย “ใหม่ เจริญปุระ,มดดำ คชาภา, กาย รัชชานนท์
เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่อยากจะลองของขึ้นครูเป็นครั้งแรก
และได้ซื้อบริการจากสาวขายบริการ
แต่การขึ้นครูของหนุ่มคนนี้กลับไม่สนุกอย่างที่คิด
เพราะผู้หญิงที่เขาซื้อบริการกลับเป็นผีที่โดนฆ่าตายในโรงแรมแห่งนี้
ลวง-ฆ่าเปลือย ม่ายหมกม่านรูด
รับแจ้งจากพนักงานมีผู้เสียชีวิตในโรงแรมม่านรูดซีไซด์พาเลส เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 10 ต.ค. ร.ต.ท.ไพโรจน์ นนท์ผ่องศรี ร้อยเวร สภ.ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมม่านรูดซีไซด์พาเลส ถนนบางแสนสาย 4 ใต้ ว่า มีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักหมายเลข 49 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุนาวิน รอง ผกก.ป.สภ.ต.แสนสุข พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน สว.สส. นำกำลังตำรวจ พร้อม นพ.อาทิตย์ ต่อพงศ์พันธุ์ แพทย์เวร รพ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นห้องพักอยู่ด้านในสุดของโรงแรม ภายในห้องพบศพ น.ส.เรียม พลายละหาร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอยรังสิต-นครนายก 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นอนหงายเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่บนเตียง โดยมีหมอนวางปิดใบหน้าและผ้าห่มคลุมร่าง บริเวณหน้าอกมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้ายและมีร่องรอยถูกร่วมเพศ พบคราบอสุจิในช่องคลอดและเปรอะเปื้อนบนที่นอน
นอกจากนี้ ยังพบขนเพชร 2 เส้น และเส้นผมจำนวนหนึ่ง
จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนบนราวแขวนผ้ามีกางเกงขายาวสีดำ
เสื้อคอปกแขนสั้นสีแดงคาดดำ เสื้อยกทรงสีดำ และกางเกงในสีขาว
ของผู้ตายห้อยอยู่ ที่โต๊ะปลายเตียงมีหม้อต้มยำกุ้ง ขวดเบียร์ลีโอ 3 ขวด
ดื่มหมดไปแล้ว 2 ขวดครึ่งพร้อมแก้วน้ำ และข้าวผัด
ที่ชั้นวางของหน้ากระจกมีกระเป๋าหนังสีดำ ข้างในมีบัตรประชาชนของผู้ตาย
บัตรเครดิต เอกสารหนังสือสัญญาซื้อขายเสื้อวิน
จยย.รับจ้างของชมรมจักรยานยนต์รังสิต ระบุชื่อ น.ส.เรียม ผู้ตาย
และบัตรผู้สูงอายุระบุชื่อนายสงวน พลายละหารรับแจ้งจากพนักงานมีผู้เสียชีวิตในโรงแรมม่านรูดซีไซด์พาเลส เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 10 ต.ค. ร.ต.ท.ไพโรจน์ นนท์ผ่องศรี ร้อยเวร สภ.ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมม่านรูดซีไซด์พาเลส ถนนบางแสนสาย 4 ใต้ ว่า มีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักหมายเลข 49 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สุทัศน์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ สุนาวิน รอง ผกก.ป.สภ.ต.แสนสุข พ.ต.ท.นิติ ทองอ่อน สว.สส. นำกำลังตำรวจ พร้อม นพ.อาทิตย์ ต่อพงศ์พันธุ์ แพทย์เวร รพ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยไตรคุณธรรม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นห้องพักอยู่ด้านในสุดของโรงแรม ภายในห้องพบศพ น.ส.เรียม พลายละหาร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ซอยรังสิต-นครนายก 1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นอนหงายเปลือยกายล่อนจ้อนอยู่บนเตียง โดยมีหมอนวางปิดใบหน้าและผ้าห่มคลุมร่าง บริเวณหน้าอกมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้ายและมีร่องรอยถูกร่วมเพศ พบคราบอสุจิในช่องคลอดและเปรอะเปื้อนบนที่นอน
สอบสวนนางลำปาง มะลิซึ่ง อายุ 42 ปี พนักงานประจำเคาน์เตอร์ของโรงแรม ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ผู้ตายเดินเข้ามาเปิดห้องพักกับผู้ชายคนหนึ่ง ตนจึงพาเข้าไปเปิดห้องดังกล่าว จากนั้นทั้งสองได้สั่งเบียร์ ต้มยำกุ้ง และน้ำขวด เข้าไปกินในห้อง จนเช้าวันเดียวกันนี้เวลาประมาณ 09.30 น. เห็นฝ่ายชายเดินออกจากห้องไปคนเดียว กระทั่งเวลา 11.30 น. ใกล้เวลาเช็กเอาต์จึงเดินไปเคาะประตูห้อง แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดูก็ต้องตกใจแทบเข่าอ่อนเมื่อพบผู้ตายเป็นศพเปลือย อยู่ในห้องดังกล่าว
ต่อมาตำรวจตรวจสอบเทปบันทึกภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ของโรงแรม พบว่าผู้ตายและชายที่มาด้วยกันนั่งรถ จยย.รับจ้างหมายเลข 34 วินพิทักษ์ประชา ตั้งอยู่หน้าตลาดหนองมน มาส่งที่โรงแรม จึงไปตามตัวคนขี่รถ จยย.รับจ้างคันดังกล่าวมาสอบสวน ทราบชื่อ นายวิชัย สุกใส อายุ 45 ปี ให้การว่า ผู้ชายที่มากับผู้ตายอายุประมาณ 30-35 ปี สูงประมาณ 165 ซม. ผมหยักศก ผิวคล้ำ ว่าจ้างตนจากวินหน้าตลาดหนองมน ให้ขี่ไปรับผู้หญิงที่รออยู่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดหนองมน จากนั้นพาทั้งคู่นั่งซ้อนสามไปส่งลงที่หน้าประตูเข้าโรงแรม
พ.ต.อ.ธน ยุติธรรมดำรง รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ตายพบว่า โทรศัพท์มือถือหายไป และเงินสดในกระเป๋าของผู้ตายก็ถูกคนร้ายหยิบไปด้วย เบื้องต้นคาดว่าผู้ตายน่าจะนัดพบกับคนร้ายที่อาจจะเป็นชายหนุ่มคู่ขา พากันนั่งรถ จยย.รับจ้างมาเปิดห้องพักโรงแรมม่านรูดเพื่อเสพสุข หลังเสร็จกิจเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายชายจึงใช้หมอนกดทับใบหน้าจนหายใจไม่ออกเสียชีวิต แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือและเงินสดในประเป๋าผู้ตายหลบหนีไป ล่าสุดชุดสืบสวนพอรู้เบาะแสฆาตกรโหดแล้ว จากการสอบถามพี่สาวของผู้ตายทราบว่า เมื่อ 7-8 วันก่อนผู้ตายโทรศัพท์มาปรึกษาว่ามีปัญหาทะเลาะกับแฟนใหม่เป็นชาว จ.กาญจนบุรี จึงเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นแฟนใหม่ของผู้ตายก่อเหตุเพราะความหึงหวงหวาด ระแวงว่าฝ่ายหญิงจะตีจากไปมีชายคนใหม่ จึงลวงมาเสพสุขแล้วพูดคุยเจรจาปัญหาหัวใจ แต่ตกลงกันไม่ได้เลยลงมือฆ่าทิ้ง จะได้ตามล่าตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 72 ซอยรังสิต-นครนายก 1 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบนายสงวน พลายละหาร อายุ 66 ปี พ่อผู้ตายเปิดเผยว่า น.ส.เรียม ลูกสาวมีอาชีพขี่รถ จยย.รับจ้างวินใต้สะพานต่างระดับ ปทุมธานี-นครนายก ตรงข้ามศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เป็นแม่ม่ายลูกติด 4 คน สามีคนแรกมีลูกด้วยกัน 1 คน หย่ากันมานานนับสิบปี ส่วนสามีคนที่สองเพิ่งตายไปได้ 2 ปีเศษ มีลูกด้วยกันอีก 3 คน จากนั้นผู้ตายมาคบหากับแฟนใหม่ชื่อนายยิ่งไม่ทราบนามสกุล ได้ประมาณ ปีเศษ โดยนายยิ่งเป็นคนลึกลับไม่มีหลักแหล่งแน่นอน มีนิสัยรุนแรงโมโหร้าย ชอบทุบตีทำร้ายผู้ตายเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อ 10 วันก่อน ใช้มีดไล่ฟันผู้ตายจนต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน กระทั่งวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายทนไม่ไหวโทรศัพท์ไปหาลูกพี่ลูกน้องอีกคนขับรถมารับพาไปอยู่ด้วยที่ จ.ชลบุรี เมื่อสอบถามลูกพี่ลูกน้องที่พาผู้ตายไปอยู่ด้วยทราบ ว่า ผู้ตายบอกว่าญาติของสามีคนแรกโทรศัพท์มาบอกให้ออกไปเอาเงิน จนมาพบเป็นศพถูกฆ่าตายที่บางแสน อาจเป็นไปได้ว่าถูกแฟนใหม่ลวงออกไปฆ่าทิ้ง เพราะผู้ตายไม่เคยมีเรื่องโกรธแค้นกับใคร
ที่มาของข่าว/ไทยรัฐ
…………………………………………
หมายเหตุ: คนตายโหง หมายถึง คนที่ตายผิดปกติ เกิดจากอุบัติเหตุตาย เช่น โดนฆ่าตาย ฆ่าตัวตาย รถชนตาย ถูกเขาฆ่าตาย กินยาตาย ผูกคอตาย โดดน้ำตาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น